เรามีบริการทั้งผลิตรางน้ำฝนและติดตั้งรางน้ำฝน รางน้ําฝนpvcลำปาง ให้กับลูกค้าทุกท่านที่สนใจทำรางน้ำฝนกับทางร้าน รางน้ําฝนสแตนเลสลำปาง โดยรางน้ำฝนนั้นเรามีวัสดุที่ผลิตจาก สังกะสี สแตนเลส และไฟเบอร์ ให้ลูกค้าทุกท่านได้เลือกตามคุณภาพและราคาที่เหมาะกับความต้องการของลูกค้า และเรายังมีช่างทำรางน้ำฝนลำปาง ที่ชำนาญคอยให้คำแนะนำและบริการเกี่ยวกับรางน้ำฝนลำปางทุกแบบทุกชนิดกับลูกค้าทุกท่าน ท่านจะได้ข้อมูลที่ดีและเหมาะสมตรงกับความต้องการในการนำไปใช้งานและติดตั้งตามสถานที่ที่ต้องการได้อย่างไม่มีปัญหา
ร้านทํารางน้ําฝนลำปาง
ร้านทำรางน้ำลำปาง
ร้านทํารางน้ําสแตนเลสลำปาง
ร้านขายรางน้ําฝนลำปาง
ร้านทำรางน้ำฝนลำปาง
รางน้ําฝนสแตนเลสลำปาง
รางน้ําฝนสําเร็จรูปลำปาง
รางน้ำสแตนเลสลำปาง
แบบรางน้ําฝนลำปาง
ติดต่อนายช่างบุญ
หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าน้ำฝนที่ไหลลงมาจากหลังคา สามารถสร้างความเสียหายได้มากกว่าที่คิด เพราะเมื่อน้ำฝนไหลมารวมกันจำนวนมากจะเพิ่มความแรงและความเร็วจากความลาดเอียงหลังคา จึงกัดเซาะพื้นดินรอบบ้านเป็นหลุม ต้นไม้และสนามหญ้าเสียหาย หากมีลมแรงยังพัดน้ำฝนสาดผนังและประตูหน้าต่างทำให้เกิดคราบน้ำ เชื้อรา หรือรั่วซึมเข้าบ้านได้ อีกทั้งความแรงของน้ำอาจกระเด็นไปยังบ้านข้างเคียงอีกด้วย ดังนั้นบ้านตั้งแต่สองชั้นจึงควรติดตั้งรางน้ำหลังคา แต่จะเลือกวัสดุรางน้ำอะไรดี มาดูการเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยก่อนตัดสินใจกัน
แผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี หรือนิยมเรียกว่า แผ่นสังกะสี เป็นวัสดุที่นิยมพับเป็นรางน้ำ เพราะราคาไม่แพง จึงใช้กันแพร่หลายมาตั้งแต่อดีต
ข้อดี ตัดและพับขึ้นรูปได้ตามรูปแบบและขนาดที่ต้องการ ราคาไม่แพง ติดตั้งได้โดยช่างทั่วไปในท้องถิ่น
ข้อด้อย เป็นสนิมและผุกร่อนได้ และมีความยาวจำกัด จึงมีรอยต่อซึ่งมักเป็นจุดที่น้ำรั่วซึม หากติดตั้งแบบลอยตัวจะเห็นโครงรับราง
สแตนเลสเป็นโลหะที่ไม่เป็นสนิม จึงนำมาใช้ภายนอกแทนสังกะสีมากขึ้น
ข้อดี พับขึ้นรูปได้เช่นเดียวกับสังกะสี แต่มีความแข็งแรงมากกว่า มีความทนทานสูง ไม่เป็นสนิม
ข้อด้อย มีความยาวจำกัดจึงมีรอยต่อที่น้ำอาจรั่วซึมได้ มีการขยายตัวมาก พื้นผิวมีความมันวาวทำให้ไม่เข้ากับสไตล์บ้าน และหากติดตั้งแบบลอยตัวจะเห็นโครงรับราง
วัสดุรางน้ำอีกประเภทที่เน้นความแข็งแรง โดยทำจากเหล็กผ่านกรรมวิธีกันสนิมและชุบสีให้สวยงาม
ข้อดี แข็งแรง มีระบบสำเร็จรูปสำหรับประกอบหน้างาน มีสีให้เลือกหลากหลาย
ข้อด้อย มีหลายคุณภาพตามแต่ละผู้ผลิต ราคาสูง หากเป็นสินค้านำเข้าใช้เวลานานในการดำเนินการ และมีจำนวนขั้นต่ำในการสั่ง หากติดตั้งแบบลอยตัวจะเห็นโครงรับราง
ไฟเบอร์กลาส คือ เส้นใยของแก้วที่ปั่นให้เป็นเส้นละเอียด เพื่อใช้เป็นวัสดุเสริมแรงในพอลิเมอร์หลายประเภท รวมทั้งพลาสติกเรซินที่นิยมนำมาขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยเส้นใยแก้วมีความแข็งแรง ทนแรงดึงได้สูง ไม่เป็นสนิม และทนต่อการกัดกร่อน
ข้อดี มีความทนทานสูงมีทั้งแบบสำเร็จรูปและสั่งผลิตได้ น้ำหนักเบา มีการเชื่อมรอยต่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ข้อด้อย วิธีการติดตั้งมีการตัด เจาะ ประกอบหน้างาน ซึ่งการตัดวัสดุและการเชื่อมรอยต่อด้วยน้ำยาอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หากติดตั้งแบบลอยตัวจะเห็นโครงรับราง
ไวนิลเป็นโพลิเมอร์สังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าโพลิเมอร์หรือพลาสติกทั่วไป มีความแข็งแรง ไม่ลามไฟ ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี และไม่เป็นพิษ ทั้งยังมีกระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานต่ำและนำกลับมารีไซเคิลได้ 100%
ข้อดี รางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูป เอสซีจี ได้พัฒนาไวนิลให้เหมาะสำหรับภูมิอากาศประเทศไทยโดยเฉพาะ จึงมีความทนทานสูง มีชิ้นส่วนครบชุดแบบสำเร็จรูป จึงติดตั้งง่าย ทำงานได้ทันที รวดเร็ว และได้มาตรฐาน มีดีไซน์สวยงามเพราะเมื่อติดแล้วจะยาวต่อเนื่องโดยไม่เห็นโครงรับรางน้ำ
ข้อด้อย เนื่องจากเป็นระบบสำเร็จรูป จึงมีรูปแบบและสีจำกัด
รางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูป เอสซีจี มี 2 รุ่น คือ
รุ่น DELUXE
รางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูป เอสซีจี รุ่น DELUXE
รางน้ำฝนทรงตัวยู (U) สีขาว ยาว 3 เมตร กว้าง 6 นิ้ว ลึก 4 นิ้ว ท่อน้ำทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว ยาว 3 เมตร
รุ่น SMART
รางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูป เอสซีจี รุ่น SMART
รางน้ำฝนทรงเหลี่ยมผืนผ้า สีโอ๊ค นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ยาว 4 เมตร มีการออกแบบป้องกันน้ำกระเด็นและไหลย้อน พร้อมท่อน้ำทรงเหลี่ยมผืนผ้าดีไซน์สวยงามลงตัวกับบ้านทุกสไตล์
รางน้ำฝนมีกี่ประเภท
รางน้ำฝนมีหลากหลายประเภท ส่วนมากแล้วจะแบ่งประเภทตามวัสดุที่ใช้งาน แต่ละประเภทจะมีรูปแบบที่ต่างกันออกไป และมีราคาที่ต่างกันด้วย
- รางน้ำฝนอะลูมิเนียม
เป็นอีกหนึ่งวัสดุที่มักนำมาทำรางน้ำฝน เนื่องจากไม่เกิดสนิมง่าย มีความคงทนต่อการกัดกร่อนสูง น้ำหนักเบา มีความสวยงามและมีหลายสีให้เลือกมากกว่ารางน้ำฝนประเภทอื่น ไม่มีปัญหาเรื่องรั่วซึม เนื่องจากขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อได้ แต่ราคาสูง
เป็นวัสดุที่นิยมนำมาทำรางน้ำมากในอดีต เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย และมีราคาถูก แต่อายุการใช้งานค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเป็นสนิมได้ง่าย ความสวยงามน้อยกว่าแบบอื่น และยังมีเสียงดังเมื่อน้ำฝนมาตกกระทบ
รางน้ำประเภทนี้จะมีเนื้อวัสดุเป็นสีธรรมชาติ แม้ว่าราคาจะสูงกว่ารางน้ำฝนสังกะสี แต่ดูสวยงามมากกว่า และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า (รางน้ำฝนสแตนเลส มีหลายเกรด ควรเลือกใช้เกรด 304 เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดสนิม)
- รางน้ำฝนเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ลำปาง
รางน้ำฝนที่ผลิตสำเร็จรูปเป็นชิ้นจากโรงงาน จึงได้มาตรฐานทั้งเรื่องขนาดและรูปทรง มีความแข็งแรง ทนการกัดกร่อน มีหลายสีให้เลือกใช้
- รางน้ำฝนรรรรดไฟเบอร์กลาส
เป็นอีกหนึ่งวัสดุใช้ทำรางน้ำที่นิยมใช้งานตามบ้าน เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีความคงทนสูง ไม่เกิดสนิม มีความสวยงามเป็นเนื้อเดียว แทบไม่มีรอยต่อ มีทั้งแบบสำเร็จรูปและแบบสั่งผลิตตามความยาวที่ต้องการ อายุการใช้งานยาวนานกว่า 10 ปี แต่แน่นอนว่ามีราคาสูง มีหลายสีให้เลือก แต่การติดตั้งต้องใช้ช่างเฉพาะทาง
รางน้ำประเภทนี้จะสวยงาม ผิวเรียบมัน มีหลายสีให้เลือกเข้ากับบ้านได้ง่าย ไม่เกิดสนิม เนื้อวัสดุคล้ายกับพลาสติกแต่มีความเหนียว คงทนมากกว่าพลาสติก ติดตั้งง่ายกว่ารางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส อายุการใช้งานนานกว่า 10 ปี แต่จะต้องพิจารณาเกรดของไวนิลให้ดี เพราะว่าตามตลาดจะมีให้เลือกมากมายหลายเกรด ความคงทนจะต่างกันออกไป
รางน้ำฝน ทำหน้าที่อะไร ทำไมต้องติดรางน้ำ ?
ในสมัยโบราณรางน้ำฝนลำปาง ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำฝนให้ไหลมารวมกันยังภาชนะเก็บน้ำเช่น โอ่ง อ่าง เพื่อจะได้เก็บเอาไว้ใช้อุปโภค-บริโภคในช่วงหน้าแล้ง หากนำมารับประทานก็จะต้มด้วยความร้อนเสียก่อน แต่หากนำมาอาบน้ำ ใช้ล้างทำความสะอาดก็อาจทำแค่แกว่งสารส้มเพื่อให้สิ่งสกปรกต่างๆ ตกตะกอนก่อน
นอกจากประโยชน์ดังกล่าวแล้วการติดตั้งรางน้ำฝนลำปาง จะช่วยป้องกันความเสียให้ที่จะเกิดขึ้นกับต้นไม้ในกระถาง สนามหญ้า บ่อปลา หรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลข้ามไปยังเขตเพื่อนบ้านของเราได้ด้วย
-นำพาน้ำฝนให้ไหลลง ณ จุดที่ต้องการ
-ป้องกันชายน้ำหลังคาบ้าน ไม่ให้ผุกร่อนก่อนเวลาอันสมควร
-ป้องกันไม่ให้น้ำฝนตกกระเซ็นสู่บ้านใกล้เคียง
-ป้องกันสิ่งสกปรกจากหลังคาบ้านกระเซ็นลงผนังบ้าน หน้าต่าง ประตู ทำให้เกิดคราบสกปรกตามผนังบ้าน และอาจก่อให้เกิดเชื้อรา รวมถึงทำให้สีบ้านหม่นหมองก่อนเวลาอันสมควร
-ป้องกันปัญหาดินทรุด เนื่องจากน้ำที่ขังในดินปริมาณมากๆ
-ป้องกันแรงกระแทกของน้ำไปยังต้นไม้ และสวนรอบบ้าน รวมถึงบ่อปลาและสนามหญ้า
-ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ซ่อมแซมบ้าน และยังช่วยรักษาหน้าดินชั้นบน
-สามารถกักเก็บน้ำฝนเอาไว้ใช้อุปโภคเมื่อยามจำเป็น
การคมนาคมขนส่ง
ทางบก
ทศวรรษ 2500 ที่เริ่มมีการขยายตัวการของทางหลวง อันได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาโดยมีเหตุผลเรื่องความมั่นคงแฝงอยู่เบื้องหลังการเดินทางดังกล่าว ทำให้แต่ละจังหวัดถูกเชื่อมกันด้วยเส้นทางหลวง จากจังหวัดสู่จังหวัด และยังอาจรวมไปถึงจากจังหวัดไปสู่ตัวอำเภอต่าง ๆ อีกด้วย เส้นทางขึ้นเหนือ คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน จากกรุงเทพฯ สู่ จังหวัดเชียงราย
นอกจากนั้นยังมี “โครงการทางหลวงเอเชีย” ที่เป็นความร่วมมือของภูมิภาค เพื่อที่จะพัฒนาการเชื่อมโยง เมืองหลวง เมืองอุตสาหกรรม ท่าเรือ สถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งการค้าสำคัญด้วยกัน ประเทศที่เกี่ยวข้องได้แก่ กัมพูชา ไทย เนปาล บังกลาเทศ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม ศรีลังกา ลาว อัฟกานิสถาน อินเดีย อินโดนีเซีย และอิหร่าน ความร่วมมือเกิดจาก คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจสำหรับเอเชีย และตะวันออกไกล (ECAFE ปัจจุบันคือ คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ESCAP) ในปี 2502 ต่อมาจีน พม่าและมองโกเลียได้ร่วมโครงการในปี 2531-2533 ทางหลวงเอเชียที่ผ่านประเทศไทยสายประธานที่เกี่ยวกับภาคเหนือมี 3 สายนั่นคือ
- สาย A-1 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เลี้ยวไปบรรจบกับ ทางหลวงหมายเลข 1 ที่ตาก แล้วลงไปยังนครสวรรค์
- สาย A-2 เริ่มจากเขตแดนพม่า อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เข้าเชียงรายแล้วลงมาตามทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งผ่านจังหวัดลำปาง
- สาย A-3 เริ่มจากแยกสาย A-2 ที่เชียงราย ออกไปตามทางหลวงหมายเลข 1020 เพื่อเลี้ยวไปจดเขตแดนลาว ที่ อำเภอเชียงของ
ขณะที่ทางหลวงหมายเลขที่ 11 ที่เชื่อมลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่ ตัดผ่านในต้นทศวรรษ 2510
จังหวัดลำปางอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 600 กิโลเมตร จากเส้นทางสายเอเชีย (ถนนพหลโยธิน) ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์กำแพงเพชร ตาก เข้าสู่ลำปาง ถนนเป็นถนนสี่เส้นทางการจราจรตลอดทาง หรือใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 แยกจากถนนพหลโยธิน ที่จังหวัดนครสวรรค์ ผ่านพิจิตร พิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ เข้าสู่ลำปาง สิ้นสุดปลายทางที่เชียงใหม่ ใช้เวลาเดินทางรถส่วนตัวประมาณ 7-8 ชั่วโมง
การเดินทางภายในจังหวัด
การขนส่งมวลชนเพื่อเดินทางภายในจังหวัดมีรถให้บริการที่คนลำางเรียกกันว่า “รถสี่ล้อ” แบ่งเป็น 2 ประเภท
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีเหลือง-เขียว เส้นทางภายในตัวเมือง สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
- รถสี่ล้อ (รถสองแถว) สีน้ำเงินและสีฟ้า เส้นทางระหว่างอำเภอ สังกัดสหกรณ์เดินรถนครลำปาง จำกัด
รถโดยสารประจำทางระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
รถประจำทางจากกรุงเทพฯ-ลำปาง สามารถเดินทางได้จาก สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) มีรถให้เลือกหลายบริษัทหลายระดับ ขณะที่การเดินทางออกจากลำปาง ใช้สถานีขนส่งจังหวัดลำปาง สังกัดเทศบานครลำปาง ณ ถนนจันทรสุรินทร์ ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง โดยรถประจำทางมีเส้นทางเดินรถดังนี้
สายกรุงเทพฯ
- สาย 1 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บลูไนน์ (กรีนบัส)
- สาย 13 กรุงเทพ-ฝาง-บ้านท่าตอน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-เชียงใหม่-แม่ริม-ฝาง-แม่อาย-บ้านท่าตอน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นิววิริยะยานยนต์ทัวร์
- สาย 18 กรุงเทพ-เชียงใหม่ (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ วิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ ศรีทะวงศ์ทัวร์ ลิกไนท์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ แอมบาสเดอร์ทัวร์ อินทราทัวร์
- สาย 90 กรุงเทพ-เชียงราย (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์ สมบัติทัวร์ บางกอกบัสไลน์ สยามเฟิร์สทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 91 กรุงเทพ-ลำปาง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ พรพิริยะทัวร์ นิววิริยะยานยนต์ทัวร์ เชิดชัยทัวร์ นครชัยแอร์ วิริยะทัวร์
- สาย 924 กรุงเทพ-ลำพูน (ก) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. เชิดชัยทัวร์
- สาย 964 กรุงเทพ-ดอยเต่า-จอมทอง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ดอยเต่า-จอมทอง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
- สาย 9911 กรุงเทพ-ลำพูน (ข) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-เถิน-ลี้-ลำพูน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส.
สายภาคกลาง
- สาย 114 นครสวรรค์-เชียงใหม่ (นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (ถาวรฟาร์ม)
- สาย 155 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์ ศรีทะวงค์ทัวร์
- สาย 132 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 623 พิษณุโลก-เชียงใหม่ (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
สายตะวันออก
- สาย 659 ระยอง-พัทยา-เชียงใหม่ (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (รถด่วนพิเศษ VIP) (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-นครสวรรค์-ตาก-ลำปาง-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ
- สาย 175 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายเก่า) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-สุโขทัย-ตาก-เถิน-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ ภูหลวงทรานสปอร์ต
- สาย 587 อุบลราชธานี-เชียงใหม่ (อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์-บัวใหญ่-ชัยภูมิ-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงใหม่ (สายใหม่) (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 635 นครราชสีมา-เชียงใหม่ (นครราชสีมา-สีคิ้ว-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 636 เชียงใหม่-อุดรธานี (อุดรธานี-หนองบัวลำภู-วังสะพุง-เลย-ภูเรือ-ด่านซ้าย-นครไทย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ จักรพงษ์ทัวร์ อ.ศึกษาทัวร์
- สาย 874 เชียงใหม่-ขอนแก่น-อุบลราชธานี (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-หล่มสัก-ชุมแพ-ขอนแก่น-โกสุมพิสัย-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-เสลภูมิ-ยโสธร-คำเขื่อนแก้ว-เขื่องใน-อุบลราชธานี) บริษัท เพชรประสริฐ จำกัด
- สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม (เชียงใหม่-ดอยติ-ลำปาง-เด่นชัย-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-เลย-หนองบัวลำภู-อุดรธานี-สว่างแดนดิน-พังโคน-สกลนคร-นครพนม) บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด
สายใต้
- สาย 779 ภูเก็ต-เชียงใหม่ (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-หัวหิน-ชะอำ-เพชรบุรี-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-ลำปาง-ลำพูน-เชียงใหม่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 871 เชียงใหม่-หัวหิน (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-นครสวรรค์-ชัยนาท-อู่ทอง-นครปฐม-ราชบุรี-เพชรบุรี-หัวหิน) บริษัท สมบัติทัวร์ จำกัด
สายตะวันตก
- สาย 875 เชียงใหม่-กาญจนบุรี (เชียงใหม่-ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร-นครสวรรค์-ชัยนาท-สุพรรณบุรี-กาญจนบุรี) บริษัท ศศนันท์ ทรานสปอร์ต จำกัด
สายเหนือ
- สาย 144 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-ม.ราชภัฏลำปาง-แม่ทะ-แม่แขม-ลอง-แพร่) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด (รถตู้ปรับอากาศ)
- สาย 145 ลำปาง-เชียงใหม่ (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ห้างฉัตร-ลำปาง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 146 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 147 เชียงใหม่-พาน (เชียงใหม่-ลำปาง-งาว-พะเยา-แม่ใจ-พาน) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 148 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 149 เชียงใหม่-ลำปาง-แม่สาย (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-แม่สาย) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 167 ลำปาง-เชียงราย (ลำปาง-แจ้ห่ม-วังเหนือ-เวียงป่าเป้า-แม่สรวย-เชียงราย) บริษัท นครลำปางเดินรถ จำกัด
- สาย 169-2 เชียงใหม่-น่าน-ทุ่งช้าง (เชียงใหม่-ลำปาง-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 672 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-เวียงป่าเป้า-เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-เถิน-บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 673 แม่สาย-แม่สอด (แม่สาย-แม่จัน-เชียงราย-พะเยา-ม.พะเยา-อ.งาว-ลำปาง-อ.เถิน-อ.บ้านตาก-ตาก-แม่สอด) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1661 เชียงใหม่-ลำปาง-เชียงราย-สามเหลี่ยมทองคำ (ข) (เชียงใหม่-ลำพูน-ดอยติ-ลำปาง-งาว-พะเยา-พาน-เชียงราย-แม่จัน-เชียงแสน-สามเหลี่ยมทองคำ) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส)
- สาย 1693 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-แม่แขม-เด่นชัย-สูงเม่น-แพร่) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด (กรีนบัส) (รถตู้ปรับอากาศ)
ทางรถไฟ
เริ่มมีการเดินรถไฟครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 2459 ณ สถานีรถไฟนครลำปาง
สถานีรถไฟ
ศูนย์กลางอยู่ที่สถานีรถไฟนครลำปาง ตำบลสบตุ๋ย อำเภอเมืองลำปาง สถานีรถไฟนครลำปาง เปิดใช้งาน 1 เมษายน 2459 รองรับ ขบวน รถรวม พิษณุโลก – ลำปาง และ อุตรดิตถ์ – ลำปาง ก่อนมีรถด่วน สายเหนือตรงจากกรุงเทพ ขึ้นมาทำขบวนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2465
พ.ศ. 2506 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดส่งหัวรถจักรไอน้ำมาแสดงไว้ที่สถานีรถไฟลำปาง และกำหนดให้สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีประวัติศาสตร์ และทำการอนุรักษ์ไว้ รูปแบบสถาปัตยกรรมของสถานีรถไฟลำปางเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่ออิฐฉาบปูน ผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปีก 2 ข้างเชื่อมกับโถงกลาง รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบอาณานิคม มีการใช้โค้ง (arch) และการประดับตกแต่งด้วยไม้ฉลุ และปูนปั้น พื้นที่ของสถานีรถไฟนครลำปาง มีประมาณ 161 ไร่ มีตัวอาคารสถานี คลังสินค้า พื้นที่เก็บหัวรถจักรและตัวรถไฟ รวมถึงพื้นที่บ้านพักพนักงาน อาคารสถานีดังที่เห็นในปัจจุบันได้ผ่านการต่อเติมมาเป็นบางส่วน โดยเฉพาะช่วงก่อนปีพ.ศ. 2520 มีการต่อเติมส่วนควบคุมบริเวณปีกทางทิศใต้ ส่วนพักคอยด้านติดรางรถไฟ และ ซุ้มด้านหน้าที่จอดรถ จากนั้นมีการเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา กระเบื้องพื้น และปรับปรุงพื้นชั้นล่างทั้งหมดในปี พ.ศ. 2538